วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ครั้งที่12 วันที่2 กันยายน 2553
ครั้งที่ 11 วันที่ 26 สิงหาคม 2553
ครั้งที่10 วันที่ 19 สิงหาคม 2553
1 การพับกระดาษแบบพับหักเป็นมุม ป๊อปอัพ
2 พับกระดาษปากนก
3 การพับกระดาษแบบ3 มิติ
ครั้งที่9 วันที่ 7 สิงหาคม 2553
ครั้งที่8 วันที่5 สิงหาคม2553
วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ครั้งที่7 วันที่ 29 กรกฎาคม 2553
วันนี้ ผมเข้าห้องเรียนช้ากว่าทุกครั้งครับ เนื่องจากว่า ฝนตก รถก็เลยติดและบ้านผมก็อยู่ไกลด้วยครับ ผมเดินเข้าห้องเรียนมายังไม่เห็นอาจารย์ผู้สอนเลย ผมก็เลยถามเพื่อนๆ ได้ความว่าอาจารย์ไปทำธุระเรื่องที่จะพาไปทัศนศึกษา ที่สัตหีบ ชลบุรี ผมเห็นเพื่อนๆผู้หญิงดีใจกันมากเลยครับที่จะได้ไปเที่ยว ส่วนตัวของผมเองนั้นเคยไปหลายครั้งแล้วครับ แต่ ครั้งนี้อาจารย์จะพาไปก็ยินดีจะไปครับจะขาดได้ไง ก็ผมชายหนุ่มคนเดียวของเอกนี่นา ฮ่าๆๆๆๆๆ และอาจารย์ก็เข้าห้องมาสั่งงานให้ทำเกมการศึกษามาคนละ1 อย่างแล้วให้นำไปใส่ในบล็อก อาจารย์จะเข้ามาตรวจดูวันเสาร์ ดีไม่ดียังไง เดี๋ยวอาจารย์จะคอมเม้นให้แก้ไข ครับ
เกมการศึกษาของผมก็คือ
ชื่อเกม>>> เกมจับคู่
วิธีการเล่น>>>
-นำรูปภาพมาวางคละกัน
-ให้เด็กนำภาพมาวางเรียงกัน
-ให้เด็กหาภาพที่เหมือนกันมาวางคู่กันทุกรูป
-ตรวจดูว่าถูกต้อง
จุดมุ่งหมาย
-เป็นการฝึกประสาทสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา
-ฝึกการแยกประเภทหรือการจัดหมวดหมู่
-ฝึกการสังเกตและเปรีบยเทียบ
-ฝึกการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ
ครั้งที่ 6 วันที่ 22 กรกฎคม 2553
ความสำคัญ
- ทำสิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม
- ได้รับประสบการณ์ตรง จำได้นาน
- รวดเร็ว เพลิดเพลิน เข้าใจง่าย
ลักษณะของสื่อที่ดี
-ต้องมีความปลอดภัย
-ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับเหมาะสมกับความต้องการของเด็ก ความสนใจ
-ประหยัด-ประสิทธิภาพ
หลักการเลือกสื่อ
-คุณภาพดี
-เด็กเข้าใจง่าย
-เหมาะสมกับวัย
-เหมาะสมกับเวลาทที่ใช้
-เด็กได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม
-ถูกต้องตามเนื้อหา ทันสมัยเด็กได้คิดเป็น ทำเป็น กล้าแสดงออก
ครั้งที่5 วันที่15กรกฎาคม2553
ก็คือว่าสื่อของผมเป็นสื่อประเภท เกมการศึกษา เหมาะสำหรับเด็กอายุ3 ขวบขึ้นไป วิธีการเล่นก็คือ เล่นโดยการจับคู่ภาพสิ่งของ ที่ใช้ร่วมกันในชีวิตประจำวัน เกมนี้ ได้สอนให้เด็กรู้จักสังเกต ให้รู้จักว่าสิ่งของที่พบเห็นรอบๆตัวเราในชีวิตประจำวันใช้งานอย่างไร และนอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาและฝึกประสาทสัมพันธ์มือกับตา อีกด้วย ครับ
วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ครั้งที่ 4 วันที่ 8 กรกฏาคม 2553
* ตามระดับประสบการณืการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ไดรับจากสื่อ
* ตามลักษณะของสื่อและวิธีการใช้งาน
(แนวคิดของเอ็ดการ์ด กรวยประสบการณ์ 11 กลุ่ม )ประกอบด้วย
1.ประสบการณ์ตรง
2.ประสบการณืรอง
3.ประสบการณ์นาฏการหรือการแสดง
4.การสาธิต
5.การศึกษานอกสถานที่
6.นิทรรศการ
7.โทรทัศน์
8.ภาพยนตร์
9.การบันทึกเสียง
10.ทัศนสัญลักษณ์
11.วจนสัญลักษณ์
หลักการเลือกสื่อการเรียนการสอน
1.เลือกสื่อการสอนที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้
2.เลือกสื่อการสอนที่ตรงกับลักษณะของเนื้อหาของบทเรียน
3.เลือกสื่อการสอนให้เหมาะสมกับลักษณะของผู้เรียน
4.เลือกสื่อการสอนให้เหมาะกับจำนวนของผู้เรียนและกิจกรรมการเรียนการสอน
5.เลือกสื่อการสอนที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม
6.เลือกสื่อการสอนที่มีลักษณะน่าสนใจ
7.เลือกสื่อการสอนที่มีวิธีใช้งาน เก็บรักษา และบำรุงรักษาได้สะดวก
อาจารย์ให้หาสื่อคนละ 1 ชิ้น*สื่อแต่ละชิ้นมีวัตถุประสงค์ให้เด็กเกิดเจตคติ พุทธพิสัย ทักษะพิสัย อย่างไร*วิธีการใช้สื่อใช้อย่างไร*ใช้สอนเด็กอายุเท่าไหร่ เด็กทำได้มั้ย เพราะอะไร*สื่อชนิดนี้สอนให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างไร
ครั้งที่3 วันที่ 1 กรกฎาคม 2553
สื่อกับผู้เรียน
-ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนได้เร็วขึ้น
-ช่วยให้สนใจบทเรียนและใช้ประสาทสัมผัสในการรับรู้ได้
-ให้ประสบการณ์รูปธรรมแก่ผู่เรียนและเกิดความประทับใจจดจำได้นาน
-ส่งเสริมความคิด
การแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์หลักการเลือกสื่อการสอน
1.สื่อต้องสัมพันธ์กับมาตตรฐานการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
2.เลือกสื่อที่มีเนื้อหาถูกต้อง ทันสมัย น่าสนใจ
3.เป็นสื่อที่เหมาะสมกับวัย ระดับชั้น ความรู้ และประสบการณ์ของผู้เรียน
4.สื่อนั้นควรสะดวกในการใช้ มีวิธีใช้ไม่ซับซ้อน ยุ่งยากจนเกินไป
5.ต้องเป็นสื่อที่มีคุณภาพเทคนิคการผลิตที่ดีมีความชัดเจนและเป็นจริง
6.มีราคาไม่แพงจนเกินไปหรือถ้าจะผลิตเองควรคุ้มกับเวลาและการลงทุน
ขั้นตอนการใช้สื่อ
1.ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
2.ดำเนินการสอนหรือประกอบกิจกรรมการเรียน
3.ขั้นวิเคราะห์และฝึกปฏิบัติ
4.ขั้นสรุปบทเรียน
5.ขั้นประเมินผู้เรียน
หลักการใช้สื่อการเรียนการสอน
1.เตรียมตัวผู้สอน
2.เตรียมสภาพแวดล้อม
3.เตรียมพร้อมผู้เรียนการเลือกดัดแปลงหรืออกแบบสื่อ
1.เลือกจากสื่อที่มีอยู่แล้ว
2.ดัดแปลงสื่อที่มีอยู่แล้ว
ครั้งที่ 2 วันที่ 24 มิถุนายน 2553
บรูเนอร์
ทฤษฎีการเรียนรู้ (learning theory) การเรียนรู้คือกระบวนการที่ทำให้คนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความคิด คนสามารถเรียนได้จากการได้ยินการสัมผัส การอ่าน การใช้เทคโนโลยี การเรียนรู้ของเด็กและผู้ใหญ่จะต่างกัน เด็กจะเรียนรู้ด้วยการเรียนในห้อง การซักถาม ผู้ใหญ่มักเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ที่มีอยู่ แต่การเรียนรู้จะเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ผู้สอนนำเสนอ โดยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ผู้สอนจะเป็นผู้ที่สร้างบรรยากาศทางจิตวิทยาที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ ที่จะให้เกิดขึ้นเป็นรูปแบบใดก็ได้เช่น ความเป็นกันเอง ความเข้มงวดกวดขัน หรือความไม่มีระเบียบวินัย สิ่งเหล่านี้ผู้สอนจะเป็นผู้สร้างเงื่อนไข และสถานการณ์เรียนรู้ให้กับผู้เรียน ดังนั้น ผู้สอนจะต้องพิจารณาเลือกรูปแบบการสอน รวมทั้งการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน
ครั้งที่1 วันที่ 17มิถุนายน 2553
2.อาจารย์ให้เขียนประวัติส่วนตัวให้ละเอียด
3.อาจารย์ได้พูดถึงการตั้งชุมนุมการศึกษาปฐมวัยเพื่อที่จะได้มีรายได้เข้าเอกปฐมวัยและน้องๆก้อจะไดเลือกชมรมของเอก
4.อาจารย์ให้สร้างบล็อกในเว็บบล็อกเกอร์ทำเป็นแฟ้มสะสมงานแทนการใช้กระดาษเพื่อลดโลกร้อนและให้ตกแต่งบล็อกของตนเองใส่นาฬิกาและปฏิทินด้วย